บทที่ 5
Author: หมาป่าผู้คลั่งรักมันฝรั่ง
“ครับท่าน ผมจะรีบรายงานให้ท่านประธานทราบทันที ท่าน…"

“อย่าพยายามต่อรองกับฉัน ไม่งั้นฉันจะทำลาย ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้พินาศทั้งหมด!”

ก่อนที่ปลายสายจะได้พูดอะไร ฮาร์วี่ย์ก็ตัดสายไปทันที

...

ในอาณาเขตคฤหาสน์โกลด์โคสต์ คฤหาสน์ทุกหลังของที่นี่ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะประเภทของกระเบื้องเซรามิกจนถึงประเภทของต้นไม้ พวกเขาได้คัดสรรมันมาอย่างดี มันไม่ใช่ว่าใครก็สามารถที่จะซื้อได้แม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวยมากแค่ไหนก็ตาม

ในขณะนั้น ฮาร์วี่ย์กำลังนั่งสบายๆ บนโซฟาที่ระเบียง ตรงข้ามเขาคือ โยนาธาน ยอร์ก ผู้บริหารคนปัจจุบันของธุรกิจทั้งหมดในเครือของตระกูลยอร์ก เขามีศักดิ์เป็นลุงของฮาร์วี่ย์และก็เป็นเขาเองที่ให้คนขับรถของเขาไปรับฮาร์วี่ย์มายังคฤหาสน์แห่งนี้

เมื่อมองไปที่ฮาร์วี่ย์ที่ทำตัวสบายๆ โยนาธานยิ้มและพูดว่า “ฮาร์ฟ นี่เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีเลยสินะ นายดูหล่อและกำยำมากกว่าเมื่อก่อนอีกนะ…”

“คุณลุง เราไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อม วกไปวนมาหรอกครับ เข้าประเด็นกันเลยเถอะ บอกผมมาเถอะครับว่าจะให้ผมช่วยอะไร คุณลุงต้องการให้ผมเข้ามาจัดการปัญหาทั้งหมดงั้นหรอครับ?” ฮาร์วี่ย์ถามอย่างใจเย็นและเขาก็ไม่แม้แต่จะมองไปที่โยนาธานด้วยซ้ำ

โยนาธานหัวเราะเยาะหยัน “ฮาร์ฟ นายนี่ยังคงเป็นคนตรงไปตรงมาเสมอเลยนะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่พูดอ้อมค้อมนะ…” ในขณะนั้นโยนาธานดูเหมือนทำอะไรไม่ถูก เขาเป็นคนที่มีอิทธิพลและมีอำนาจมากคนหนึ่งในเมืองนิอัมมี่ เขาสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนทั้งเมืองได้เพียงแค่ลงมือทำ แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถ่อมตัวและยอมจำนนต่อหน้าฮาร์วี่ย์ เพราะเขามีสิ่งที่จะต้องร้องขอ

“ครอบครัวของเราลงทุนตามกระแสและนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า ด้วยเหตุนี้แหละ เราจึงขาดทุนมหาศาล ตอนนี้เงินทุนของครอบครัวเรา…”

“เข้าประเด็นเลยเถอะ! คุณลุงต้องการเท่าไหร่”

“มันไม่มากหรอก ก็แค่ประมาณพันล้านดอลลาร์…”

‘บัดซบ!’ ตาของฮาร์วี่ย์กระตุกสั่นเล็กน้อย 'พันล้านดอลลาร์งั้นหรอ? ทำไมคุณลุงไม่ไปปล้นธนาคารซะเลยล่ะ'

“เอาล่ะครับท่านประธานยอร์ก ผมมีธุระอื่นต้องไปจัดการ ผมขอตัวก่อนนะครับ…” ฮาร์วี่ย์ลุกขึ้นยืนทันทีและกำลังจะออกไป

“ฮาร์ฟ!” โยนาธานค่อนข้างเป็นกังวล เขาพูดออกมาทันทีว่า “เราจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนนี้ ถ้าเราไม่มีเงินทุนก้อนนี้ เราจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้และธุรกิจเราก็จะเจ๊ง นอกจากนี้ถ้านายต้องการอะไร ฉันยอมทำทุกอย่างที่นายต้องการ!”

ฮาร์วี่ย์มองลึกเข้าไปในดวงตาของโยนาธานและพูดอย่างหมดหนทางว่า “ผมเห็นความจริงใจของคุณลุงนะครับ แต่ปัญหาคือผมจะไปเอาจำนวนมากขนาดนั้นมาจากไหน”

“ฮาร์ฟ นายอยากเห็นครอบครัวของเราพังพินาศจริงๆหรอ? นายมีเงินกว่าล้านล้านดอลลาร์ในบัญชีต่างประเทศของนาย นายสามารถช่วยเรานะฮาร์ฟ แค่เพียงนายให้เงินเล็กน้อยนั่นกับเรา!” โยนาธานรู้สึกประหม่ามากจนดวงตาของเขาแดงก่ำ “นายอย่าลืมสิ ว่านายมาจากไหน!”

ในตอนแรกฮาร์วี่ย์ก็ยิ้มออกมา แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเขาก็สลดลง “คุณลุงครับ แต่จากสิ่งที่ผมจำได้ ในช่วงเวลานั้นทุกๆคนต่างก็เชื่อว่าผมไม่สมควรที่จะเป็นทายาทของตระกูลยอร์ก”

“ตระกูลของเรามีมากกว่าร้อยคน ไม่มีใครสักคนที่จะไถ่ถาม มีแต่คอยประณามกันอย่างรุนแรงครั้งหนึ่งผมเคยเป็นคนที่ทำผลกำไรให้ครอบครัวอย่างมหาศาล แต่ผมกลับถูกไล่ออกมาเหมือนตัวปัญหา แต่มาตอนนี้คุณลุงกำลังขอให้ผมจดจำว่าผมมาจากไหนนั้นหรอครับ คุณลุงไม่คิดว่ามันจะดูตลกไปหน่อยเหรอครับ?

“ทำไมคุณลุงไม่ลองคิดดูว่าผมทำงานหนักแค่ไหนเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา? คุณลุงมีความสุขกับเงินและผลกำไรที่ผมหามาได้ แต่สุดท้ายกลับปฏิเสธผม”

“ผมกลายเป็นลูกเขยที่ไร้ค่าของครอบครัวอื่นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ผมใช้ชีวิตที่น่าสมเพชนั่น คุณลุงไม่แม้จะมาเยี่ยมหรือยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือผมเลย”

“ถ้าคุณลุงไม่ได้อยู่ในวิกฤตครั้งใหญ่นี้ คุณลุงยังจำทายาทคนก่อนได้ไหมครับ” ฮาร์วี่ย์พูดทุกคำอย่างหมดจด

ดวงตาของโยนาธานกระตุกเล็กน้อย เขาพูดทันทีว่า “ฮาร์ฟ พวกเราผิดไปแล้ว ให้เราได้ทำอะไรเพื่อเป็นการขอโทษนายเถอะนะ ฉันอยากให้นายยกโทษให้กับเรา... แต่ตอนนี้เราต้องการให้นายช่วยแก้ไขวิกฤตนี้ก่อน ฉันสามารถตัดสินใจอะไรก็ได้ทันทีที่นี่ นับจากนี้เป็นต้นไปนายคือ ซีอีโอของยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์!”

แม้ว่า ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในตระกูลยอร์ก แต่มันก็เป็นบริษัทที่มีศักยภาพมากที่สุด ที่มุ่งเน้นไปที่การลงทุนเพื่อแลกกับการเป็นเจ้าของในบริษัทนั้น นอกจากนี้ยังมีหุ้นอยู่มากในหลายบริษัทในเมืองนิอัมมี่ ทั้งหมดรวมถึงผลิตภัณฑ์และแผนงานใหม่ๆที่กำลังจะเข้าจดทะเบียน

แต่ในตอนนี้ บริษัทแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ เบลล์ ยอร์ค ซึ่งเป็นลูกสาวของโยนาธาน เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฮาร์วี่ย์ น่าแปลกที่โยนาธานกำลังจะส่งมอบบริษัทนี้ให้กับเขา

“ก็ดีนะครับ ผมรับข้อเสนอนนี้” ฮาร์วี่ย์พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ตอนแรกเขาไม่หยากจะยุ่งเกี่ยวกับคนในตระกูลยอร์กอีก แต่เขายังจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนั้นได้อย่างชัดเจน หากเขาไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัท เขาก็จะถูกรังแกได้ง่ายและถูกประณามจากใครหลายๆคน

“ไม่ต้องกังวล ลุงจะจัดการให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ลุงจะเข้าบริษัทและลงนามในเอกสารให้เรียบร้อย แล้วลุงจะจัดการเรื่องดอกกุหลาบจากปรากให้…” โยนาธานถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากฮาร์วี่ย์ไม่ยินยอมที่จะช่วยเหลือพวกเขาแล้วละก็ ตระกูลยอร์กคงจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากแม้ว่าพวกเขาจะไม่ล้มละลายก็ตาม

ฮาร์วี่ย์ไม่สนใจเรื่องของเขาอยู่แล้ว หากเขาไม่สามารถจัดการกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้นได้ เขาก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ในสายงานธุรกิจนี้

“ยังไงก็ ผมขอยืมชุดสูทนี้หน่อยนะครับ” ฮาร์วี่ย์ที่กำลังจะจากไป แต่เขาเห็นชุดสูทใหม่ที่วางอยู่บนโซฟา ดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย

คืนนี้เขาจะไปงานรวมรุ่นเพื่อพบปะเพื่อนร่วมชั้นเรียนจากมหา’ลัยและเขาก็ยังกังวลเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่ดูดีไว้สำหรับใส่ออกงาน ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีเวลาแล้วที่จะออกไปหาซื้อ เขาจึงตัดสินใจยืมมันจากโยนาธาน

"ไม่เป็นไร ถ้านายชอบก็เอาไป มันเป็นของขวัญจากแบรนด์ Armani ยังมีป้ายราคาติดอยู่เลย” โยนาธานพยักหน้าอย่างสบายๆ แม้ว่าชุดสูทนั้นจะมีราคาแพง แต่ก็ไม่มีความหมายอะไรเลยหากเทียบกับหนึ่งพันล้านดอลลาร์ ประธานบริษัทยอร์กอย่างเขาจะสนใจเรื่องแค่นี้ได้อย่างไร?

ฮาร์วี่ย์ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจึงไปเปลี่ยนเป็นชุดในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่รองเท้าของตัวเองแล้วหันไปมองตู้รองเท้าของโยนาธานด้วยความรังเกียจ

โยนาธานดูเหมือนจะเป็นคนมีกลิ่นเท้า ‘ฉันไม่อยากใส่รองเท้าของเขาเลย ฉันจะใส่รองเท้าแตะของฉันเนี่ยแหละ'

เขาได้ยินมาว่าเพื่อนร่วมชั้นทุกคนจะเข้าร่วมการรวมรุ่นในคืนนี้ ดูเหมือน เวนดี้ เซอร์เรล ดาวมหา’ลัยในปีนั้นก็มางานนี้ด้วย ฮาร์วี่ย์เลยมีความกระตือรือร้นเล็กน้อย

หลังจากฮาร์วี่ย์ออกจากคฤหาสน์ เขาก็ผิวปากและขี่จักรยานไฟฟ้าคันเก่าไปที่โรงแรมแพลตตินั่ม การรวมรุ่นจะจัดขึ้นที่นั่นและเขากลัวว่าหากเขาช้ากว่านี้จะไปงานสาย

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแตรรถดังมาจากด้านหลัง พร้อมด้วยรถปอร์เช่คันหนึ่งจอดอยู่ข้างๆฮาร์วี่ย์ หน้าต่างรถก็ลดลงอย่างช้าๆ

เขาเห็นแม่ยายที่กำลังถอดแว่นกันแดดของเธอออกและมองมายังเขาอย่างเฉยชา ในตอนนี้มันทำให้เขารู้สึกอึดอัด

แม้ว่าลิเลียน เยตส์ จะเป็นแม่ยายของฮาร์วี่ย์ แต่เธอก็ดูเหมือนหญิงสาวที่อายุเพียงสามสิบปี นั่นเ็นเพราะว่าเธอดูแลรูปร่างหน้าตาและสุขภาพเป็นอย่างดี เธอดูสง่างามและใครๆ ก็สามารถสังเกตเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างเธอกับแมนดี้เนื่องจากทั้งคู่สวยสง่างามโดดเด่นมาก

อย่างไรก็ตามเธอกำลังจ้องมองไปที่ฮาร์วี่ย์ จากนั้นเธอก็พูดอย่างเย็นชาว่า “นายเอาชุดสูทนั้นมาจากไหน”

ตลอดสามปีที่ฮาร์วี่ย์อยู่ภายใต้ตระกูลซิมเมอร์ คนที่เขากริ่งเกรงที่สุดคือ ลิเลียน เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทันที “คุณแม่ครับ ผมยืมมันมาจากเพื่อน…”

“ โอ้? นายมีเพื่อนด้วยหรอ” ลิเลียนยิ้มอย่างเยือกเย็น จากนั้นเธอก็พูดว่า วันนี้มีคนมารายงานฉันนะว่าเกิดอะไรขึ้นที่บริษัทบ้าง เนื่องจากนายไม่มีความสามารถที่จะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จได้เลยสักอย่าง กลับบ้านไปซะแล้วเก็บข้าวของของนายคืนนี้ให้หมด พรุ่งนี้ก็เซ็นใบหย่า ไม่ต้องกังวลไปละ ฉันจะส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้นาย”

ความหนาวเยือกเย็นสั่นสะท้านวิ่งวนไปตามกระดูกสันหลังของเขา “แต่…คุณแม่ครับ…ผมรักแมนดี้จริงๆ ผมขาดเธอไม่ได้…”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นลิเลียนก็หัวเราะออกมาอย่างสมเพชและพูดว่า “อย่าเรียกฉันว่าแม่นะ ฉันไม่มีลูกชายอย่างแก ถ้าฉันกลายเป็นแม่ของแกจริงๆ ฉันกลัวว่าบรรพบุรุษของฉันจะผิดหวังในตัวฉัน …”

“ยิ่งไปกว่านั้น นายอย่ามาอ้างว่าแกรักลูกสาวของฉัน ยังไงล่ะ? แกมีสิทธิ์อะไรถึงมีจะมารักลูกสาวฉัน แกทำอะไรได้บ้างงั้นเหรอนอกจากทำความสะอาดบ้าน แกไม่รู้ตัวบ้างเลยหรือไงว่าได้ทำลายช่วงเวลาที่มีค่าของชีวิตลูกสาวฉันไปตลอดสามปีที่ผ่านมา”

“เมื่อกี้ดอนโทรหาฉัน เขาบอกว่าเขายินดีที่จะจ่ายเงินหนึ่งล้านดอลลาร์เป็นของขวัญแต่งงานหากฉันยอมให้เขาแต่งงานกับแมนดี้ แกรู้หรือเปล่าล่ะว่ามันมีมูลค่ามากแค่ไหน? ฉันว่าแกคงไม่รู้ค่าของมันสินะ”
Continue to read this book for free
Scan the code to download the app

Latest Chapter

  • บทที่ 4172

    “อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน

  • บทที่ 4171

    “อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส

  • บทที่ 4170

    “นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา

  • บทที่ 4169

    ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่

  • บทที่ 4168

    อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร

  • บทที่ 4167

    เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้

More Chapter
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on MegaNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
Scan code to read on App